วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

สงครามเกาหลี

สงครามเกาหลี

เดิมทีนั้นเกาหลีไม่ได้รวมเป็นแผ่นดินเดียวกันทั้งผื น แต่มีอยู่หลายชนเผ่าไม่ขึ้นแก่กัน จนกระทั่งราชวงศ์ฮั่นของจีนได้แผ่ขยายอำนาจมาในคาบสม ุทรเกาหลีและได้ปกครอง เกาหลีประมาณ 400 ปี ต่อมาราชวงศ์ฮั่นล่มสลายลง แคว้นต่างในคาบสมุทรเกาหลีก็ทำสงครามแผ่ขยายอำนาจกัน จนกระทั่งเหลืออยู่ เพียงสี่อาณาจักรใหญ่ คือ โคกูรยอ ซิลลา แพกแจ และกายา ต่อมาแคว้นซิลลาได้ยกกองทัพเข้ายึดอีกสามแคว้นรวมแผ่ นดินเป็นหนึ่งได้ในที่ สุด
ต่อมาอาณาจักรซิลลาก็ล้มเหลวทางด้านการปกครองจนถูกขุ นนางคนหนึ่งยึด อำนาจและสถาปนาราชวงศ์โครยอปกครองคาบสมุทรเกาหลี(คำว ่าโครยอเป็นที่มาของคำ ว่าโคเรียในปัจจุบัน) หลังจากนั้น 200 ปีราชวงศ์โครยอก็ถูกแม่ทัพคนหนึ่งเข้าล้มล้างและสถาป นาราชวงศ์โชซอนแทน
จน กระทั่งโลกได้เข้าสู่ยุคล่าอาณานิคมในศตวรรษที่ 18 ญี่ปุ่นในฐานะประเทศมหาอำนาจชาติเดียวในเอเชียในสมัย นั้น ได้เข้ายึดครองคาบสมุทรเกาหลี(ยุ่นมันเลียนแบบฝรั่งน ั่นแหละ) ล้มราชวงศ์โชซอนลง ทำลายปราสาทราชวัง บังคับให้เกาหลีส่งข้าวที่เก็บเกี่ยวได้ไปให้ญี่ปุ่น จนกระทั่งเกาหลีตกอยู่ในภาวะอดอยาก ผู้ใดต่อต้านก็จะถูกฆ่า รวมทั้งในตอนที่ญี่ปุ่นทำสงครามกับรัสเซียนั้น ชาวเกาหลีจำนวนมากก็ถูกบังคับให้ไปช่วยรบ
ความเจ็บปวดของเกาหลี ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ต่อมาเมื่อญี่ปุ่นเข้าร่วมกับฝ่าย อักษะในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นก็พยายามกลืนชาติเกาหลีด้วยการเผยแพร่วัฒนธรร มของตนในเกาหลี การกระทำทุกอย่างที่เป็นการแสดงออกแบบเกาหลีถือเป็นส ิ่งผิดกฎหมาย ชาวเกาหลีจำนวนมากถูกเกณฑ์ไปทำสงครามในจีน สตรีกว่า 200000 คนถูกส่งตัวไปเป็นนางบำเรอของทหารญี่ปุ่น
การแบ่งแยกประเทศใน ช่วงสงครามเย็น
หลังจากที่อเมริกาทิ้งบอมบ์เมืองฮิโรชิม่าและนา งาซากิของญี่ปุ่นจนญี่ปุ่นต้องยอมแพ้สงครามโลกครั้งท ี่ 2 อย่างไม่มีเงื่อนไขไป กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรก็เข้าปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นในเก าหลี โดยสหภาพโซเวียตและจีนเข้าควบคุมภาคเหนือ อเมริกากับอังกฤษเข้าควบคุมภาคใต้ โดยใช้เส้นละติจูดที่ 38 เป็นหลัก ประเทศมหาอำนาจทั้งสี่ได้ประกาศให้เกาหลีเป็นเอกราชจ ากญี่ปุ่น ในตอนนั้นชาวเกาหลีต่างยินดีปรีดาที่จะได้รับสันติภา พกันเสียที

แต่ ทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อสหรัฐและโซเวียตตกลงกันไม่ได้ว่าจะจัดให้เกาหลี มีการเลือกตั้งแบบ ประชาธิปไตยหรือจะให้มีรัฐบาลแบบคอมมิวนิตส์ดี จนสุดท้ายก็ต้องมีการแบ่งเกาหลีออกเป็นสองชาติ คือ เกาหลีเหนือที่เป็นคอมมิวนิตส์และเกาหลีใต้ที่เป็นปร ะชาธิปไตย
UploadImage

ประเทศในกลุ่มนี้เคยถูกฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิตส์กดขี่ข ่มเหง จึงตกเป็นเป้าหมายของฝ่ายคอมมิวนิตส์ที่จะดึงมาเป็นพ วก
สงครามเกาหลี เป็นสงครามตัวแทนของอเมริกากับโซเวียตในสมัยสงครามเย ็น (อเมริกากับโซเวียตจะไม่ทำสงครามกันโดยตรง แต่จะใช้พวกลูกมือมาสู้กัน สงครามตัวแทนมีอยู่ 4 ครั้ง คือ สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม สงครามอัฟกานิสถาน และวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในคิวบา) เป็นสงครามที่คนเกาหลีต้องมาทำสงครามกันเองโดยที่ตนเ องไม่ได้เป็นคนก่อ สงครามขึ้นแต่อย่างใด ซ้ำยังถูกประเทศต่างๆมาหาผลประโยชน์อีกต่างหาก
สงครามเกาหลีเป็นสงครามที่โหดร้ายและนองเลือดที่สุดค รั้งหนึ่งเท่าที่โลกนี้เคยประสบ เกาหลีในสมัยนั้นยังไม่ได้เป็นเมืองใหญ่เหมือนดังเช่ นทุกวันนี้ หากแต่เป็นป่าเขาทุรกันดาร พื้นโคลนตมแฉะๆ รวมไปถึงสภาพอากาศในฤดูหนาวอันเลวร้าย และอาวุธที่นำมาใช้ประหัตประหารกันนั้นมีความพลิกแพล งหลากหลายมากเพราะอยู่ในช่วงรอยต่อระหว่างสมัยสงคราม โลกและสมัยปัจจุบัน ราวกับว่าอาวุธของทุกยุคสมัยจะมารวมกันในการต่อสู้คร ั้งนี้ กลยุทธ์ที่นำมาใช้นั้นก็เป็นการผสมผสานกันระหว่างสงค รามโลกครั้งที่ 1 และ 2คือมีการใช้ทั้งคลื่นทหารราบ การรบแบบสนามเพลาะ การชุมนุมรถถัง การทิ้งระเบิด การใช้จิตวิทยา รวมไปถึงการรบแบบกองโจร และยังมีการใช้เครื่องบินไอพ่นเป็นครั้งแรกของโลกอีก ด้วย แทบไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นในยุคที่โลกพึ่งผ่านพ ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดอย่างสงครามโลกครั้งที่ 2 มาหมาดๆ
สงคราม เกาหลีเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 25 มิ.ย. 1950 เมื่อเกาหลีเหนือนำกองทัพบุกเกาหลีใต้หมายจะรวมประเท ศให้เป็นหนึ่งอีกครั้ง จนกระทั่งมีการเจรจาหยุดยิงกันชั่วคราวในวันที่ 27 ก.ค. 1953 ในปัจจุบันนี้(ปี 2010)ก็ยังไม่ถือว่าสงครามจบ แต่เลิกยิงกันไปชั่วคราวเพราะมีสัญญาหยุดยิงกำกับไว้ อยู่ ซึ่งถ้าสัญญานี้หมดอายุเมื่อไรก็กลับมารบกันต่อเมื่อ นั้น(คิดว่าถ้ารบกันอีก ครั้งคงกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์และอาจลุกลามกลายเป็ นสงครามโลกครั้งที่ 3 ไปในที่สุด)
เริ่มสงคราม
- 18 มิ.ย. 1950 รัฐบาลเกาหลีเหนือภายใต้การนำของนายคิม อิล ซุง ได้สั่งระดมทหารจากภาคเหนือราว 260000 นาย และประกาศที่จะรวมประเทศเข้าเป็นหนึ่งอีกครั้ง
-19 มิ.ย.1950 โซเวียตเสริมกำลังทหารในเกาหลีเหนืออีก 20000 นายพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์สนับสนุน , จีนเสริมกำลังทหารในเกาหลีเหนืออีก 400000 นายพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์สนับสนุน
-21 มิ.ย. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์(เกาหลีเหนือ โซเวียต จีน) ยกพลเข้าประชิดชายแดนเกาหลีใต้ สหรัฐพยายามที่จะเข้าไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทนี้แต่ไม่เป ็นผล
-25 มิ.ย. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์ยกพลข้ามเส้นละติจูดที่ 38 เข้าสู่เกาหลีใต้ รัฐบาลเกาหลีใต้ที่นำโดยนาย ซิงมัน ลี ประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือทันที
-27 มิ.ย. 1950 กองทัพเกาหลีใต้เพลี่ยงพล้ำครั้งใหญ่ที่บินมุนจอมเพร าะฝ่ายคอมมิวนิตส์มี กำลังทหารและอาวุธที่เหนือกว่ามาก
เกาหลีใต้เข้าขั้นวิกฤต
- 30 มิ.ย. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์เข้าตีกรุงโซลแตก บุคคลสำคัญของเกาหลีใต้ต้องไปตั้งรัฐบาลผลัดถิ่นที่เ มืองปูซาน
-3 ก.ค. 1950 สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรประกาศให้ความช่วยเหลือแ ก่เกาหลีใต้ และส่งทหารมาช่วยเกาหลีใต้รบ แต่ก็ไม่ประสบผลเท่าใดนัก เพราะการวางแผนการรบที่ดีของฝ่ายคอมมิวนิตส์(เช่นการ เข้าตีตอนกลางคืน การปล้นสดมถ์ เผากองเสบียง) กองทัพพันธมิตรต้องเพลี่ยงพล้ำอย่างหนักที่เมืองจูโน ่(ใครเคยเล่นแรกนารอคจะ รู้จักดี)
-11 ก.ค. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์ได้ชัยชนะอย่างต่อเนื่องจนขยายแนวร บไปถึงทะเลญี่ปุ่น บัดนี้เกาหลีใต้กำลังจะพ่ายแพ้อย่างราบคาบ นายโจเซฟ สตาลิน ผู้นำโซเวียตถึงกับออกมาประกาศกร้าวว่า ถ้ายึดเกาหลีใต้ได้เมื่อไรจะยกพลข้ามช่องแคบไปแก้แค้ นญี่ปุ่นอย่างสาสม!
จุด เปลี่ยนของสงคราม
- 20 ก.ค. 1950 รัฐบาลสหรัฐเกรงว่าถ้าฝ่ายคอมมิวนิตส์บุกญี่ปุ่นได้เ มื่อไร สงครามนี้ก็จะบานปลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้อย่างไม่ต้องสงสัย จึงออกคำสั่งให้ จอมพลดักลาส แมกอาเธอร์ ผู้บัญชาการที่เก่งที่สุดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นผู้ที่พิชิตญี่ปุ่นได้ ไปบัญชาการรบช่วยเหลือเกาหลีใต้เป็นการด่วน
-23 ก.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรสามารถยันกองทัพคอมมิวนิตส์ไว้ได้ที่เมื องเดกู ในสงครามครั้งนี้เป็นการสร้างชื่อให้กับกองทัพไทยอีก ด้วย(ในการรบครั้งนั้น ทหารไทยฆ่าทหารคอมมิวนิตส์ไป 500 นายโดยเสียทหารไทยไปเพียง 25 นายเท่านั้น)
-25 ก.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรได้รับกำลังเสริมจากสหประชาชาติ และสามารถยันทหารฝ่ายคอมมิวนิตส์ให้ถอยกลับไปที่จูโน ่ได้
- 31 ก.ค.1950 ฝ่ายพันธมิตรที่กำลังฮึกเหิมได้เข้ายึดเมืองจูโน่คืน มาได้
-9 ส.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดกรุงโซลคืนมาได้
- 15 ส.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรสามารถขับไล่ฝ่ายคอมมิวนิตส์ให้พ้นกลับข ึ้นไปเหนือเส้นละติจูด ที่ 38 ได้เป็นผลสำเร็จ
ฝ่ายพันธมิตรโจมตีกลับ
- 20 ก.ย. 1950 ฝ่ายพันธมิตรบุกข้ามเส้นละติจูดที่ 38 เข้าสู่เกาหลีเหนือ
- 26 ก.ย. 1950 การต่อสู้ด้วยเครื่องบินเจ็ทครั้งแรกของโลกได้เริ่มต ้นขึ้น เมื่อฝ่ายพันธมิตรส่งเครื่องเซเบอร์ เครื่องบินเจ็ทรุ่นสุดของตนเข้าโจมตีพรมแดนระหว่างจี นกับเกาหลีเหนือ เพื่อตัดเส้นทางลำเลียงพลของทหารจีนที่จะเข้าสู่เกาห ลีเหนือ ในตอนนั้นกองทัพคอมมิวนิตส์ไม่เคยมีประสบการณ์ในการต ่อกรกับเครื่องบินเจ็ท เลย จึงเสียหายอย่างหนัก
-28 ก.ย. 1950 โซเวียตส่งฝูงบินมิก เครื่องบินเจ็ทรุ่นแรกสุดของตน เข้าจัดการกับฝูงบินเซเบอร์ของฝ่ายพันธมิตร ฝ่ายพันธมิตรที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าฝ่ายคอมมิวนิตส์จะ มีเครื่องบินเจ็ทเหมือน กันเสียฝูงบินเซเบอร์ไปเกือบทั้งหมด
-3 ต.ค. 1950 ในขณะที่กองทัพอากาศเสียหายอย่างหนัก กองทัพบกของฝ่ายพันธมิตรก็รุกคืบต่อไป ทหารฝ่ายคอมมิวนิตส์กว่า 15000 นายถูกต้อนไปจนมุมที่เมืองอินชอน และพ่ายแพ้ไปในที่สุด
-17 ต.ค. 1950 กองทัพพันธมิตรเข้ายึดกรุงเปียงยางได้สำเร็จ จากนี้ก็เหลือเพียงเก็บกวาดเกาหลีเหนือให้ราบคาบไป
-5 พ.ย. 1950 ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดเมืองทกซินทางตอนเหนือของเกาหลีเ หนือ
-10 พ.ย. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ถูกฝ่ายพันธมิตรไล่บดขยี้อย่างหนักจน ถอยร่นขึ้นเหนือถึงชาย แดนจีน นายพลแมกอาเทอร์เสนอให้สหรัฐใช้อาวุธนิวเคลียร์ถล่มจ ีน แต่ข้อเสนอของเขาถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากรัฐบาลสหรั ฐ จนเขาถูกเรียกตัวกลับอเมริกาในที่สุด

UploadImage

เหตุการณ์ที่ผลิกผันอีก ครั้ง
- 1 ธ.ค. 1950 จีนส่งทหารกว่า 500000 นายเข้าสู่เกาหลีเหนือที่กำลังจะพ่ายแพ้ และนี่ก็คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้ง
- 16 ธ.ค. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์ที่กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งเข้าขับ ไล่ทหารพันธมิตรออกไป จากภาคเหนือของเกาหลีเหนือ
- 27 ธ.ค. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ยึดเปียงยางคืนมาได้
- 31 ธ.ค. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ขับไล่ทหารพันธมิตรให้พ้นไปจากเส้นขน านที่ 38 ได้สำเร็จ และเตรียมตัวบุกเกาหลีใต้อีกครั้ง
ฝ่ายคอมมิวนิตส์บุกเกาหลีใต้ อีกครั้ง
- 12 ม.ค. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์บุกเกาหลีใต้อีกครั้ง และเข้าประชิดกรุงโซลอย่างรวดเร็ว
- 28 ม.ค. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ยึดกรุงโซลได้ ฝ่ายพันธมิตรต้องถอยไปที่จูโน่
- 3 มิ.ย. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์เข้ายึดจูโน่ได้อีกครั้ง
- 4 มิ.ย.1951 ถึง 23 มี.ค. 1953 ฝ่ายคอมมิวนิตส์พยายามรุกคืบไปให้ถึงปูซาน แต่ฝ่ายพันธมิตรเข้าต่อต้านอย่างสุดสามารถ การรบติดพันกันที่ภาคกลางของเกาหลีใต้กว่า 1 ปี จนกระทั่งสหประชาชาติส่งกองหนุนเข้าไปในเกาหลีใต้อีก ครั้ง
การ เจรจาหยุดยิง
- 30 มี.ค. 1953 ฝ่ายพันธมิตรเข้าผลักดันฝ่ายคอมมิวนิตส์ขึ้นเหนือ
- 20 มิ.ย. 1953 ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดกรุงโซลคืนได้
- 2 ก.ค. 1953 ฝ่ายพันธมิตรขับไล่ทหารคอมมิวนิตส์ให้พ้นเส้นขนานที่ 38 ไปได้สำเร็จ
- 27 ก.ค. 1953 ทั้งสองฝ่ายเจรจาหยุดยิงกัน
สรุปความเสียหาย
ฝ่ายคอมมิวนิตส์
ทหารเกาหลี เหนือเสียชีวิต 215,000 นาย บาดเจ็บ 303,000 นาย สูญหาย 120000 นาย
ทหาร จีนเสียชีวิต 148000 นาย บาดเจ็บ 380000 นาย สาบสูญ 21400 นาย
ทหารรัส เซียเสียชีวิต 282 นาย
ฝ่ายพันธมิตร
ทหารเกาหลีใต้เสียชีวิต 137,899 นาย บาดเจ็บ 450,742 สาบสูญ 32,838
ทหารอเมริกันเสียชีวิต 36,516 นาย บาดเจ็บ 92,134 สาบสูญ 8,176
ทหารชาติอื่นๆเสียชีวิตรวม 200000 นาย
ยอดรวมพลเมืองที่เสียชีวิต/บาดเจ็บ: 2.5 ล้าน (ประมาณการ)
เกาหลีใต้: 990,968
373,599 เสียชีวิต
229,625 บาดเจ็บ
387,744 ถูกลักพาตัว/หายสาบสูญ
เกาหลีเหนือ: 1,550,000 (ประมาณการ)
ความ พยายามที่จะรวมประเทศกันอีกครั้ง
เกาหลีใต้มีความพยายามที่จะรวมประเทศอย่างสันติตั้งแ ต่ พ.ศ. 2513 โดยเปิดการเจรจากับเกาหลีเหนืออย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการเจรจาระหว่างสภากาชาดฝ่ายใต้และเหนือ เพื่อให้ครอบครัวที่พลัดพรากระหว่างสงครามได้พบหน้าก ัน มีการออกแถลงการณ์ระหว่างสองประเทศเมื่อ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 เพื่อยติการกล่าวร้ายระหว่างกัน แต่การเจรจาเพื่อรวมประเทศไม่ราบรื่น ที่ประสบผลมีเพียงการอนุญาตให้ชาวเกาหลีทั้งสองประเท ศข้ามเขตปลอดทหารไปมาหา สู่กันได้ในช่วง 20-23 กันยายน พ.ศ. 2528 และการเจรจาเกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิก พ.ศ. 2531 ที่กรุงโซล เท่านั้น การเจรจาเรื่องอื่นๆหยุดชะงักลงหลังพ.ศ. 2529 เนื่องจากเกาหลีเหนือไม่พอใจเกี่ยวกับการซ้อมรบระหว่ างเกาหลีใต้กับสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการขัดแย้งกับการรวมชาติ เกาหลีใต้พยายามประนีประนอมกับเกาหลีเหนือเพื่อการเจ รจาจนมีการประชุมระดับ ผู้นำครั้งแรกเมื่อ 4 กันยายน พ.ศ. 2533 จากนั้นมีการประชุมต่อมาอีกหลายครั้ง อย่างไรก็ตามการรวมชาติเกาหลียังเป็นสิ่งที่ต้องรอคอ ยต่อไปจนกระทั่ง ปัจจุบัน

UploadImage


ที่มา http://www.unigang.com/Article/5867

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น